Category ข่าวกีฬา

การแข่งขัน ไตรกีฬา ระดับอาเซียน ‘CIMB THAI TRIATHLON FORWARD YOUR HEALTH’ โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด ปีที่ 4

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ตอบโจทย์ คนรักสุขภาพ ภายใต้แนวความคิด ‘การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนกับสุขภาพ’ ด้วยการผนึกกำลังระหว่างธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กับ ซีฟิฟตี้ไฟว์ อีเวนท์ มืออาชีพด้านการจัดอีเวนท์กีฬากลางแจ้งครบวงจรอีกครั้ง

สำหรับการแข่งขัน ประกอบไปด้วยการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน และวิ่ง แบ่งเป็น 5 ประเภทการแข่งขัน และได้รายนามผู้ชนะดังต่อไปนี้
1. ไตรกีฬาระยะมาตรฐาน ประเภทบุคคล Individual Standard Triathlon (ว่ายน้ำ 1.5 กม. ปั่นจักรยาน 40 กม. วิ่ง 10 กม.) ชนะเลิศ ชาย ได้แก่ แดเนียล เชิร์ท (ประเทศสเปน) ทำได้ 2.08.25 ชม., ชนะเลิศ หญิง ได้แก่ ลินเซ่ นิเกล (อเมริกา) ทำได้ 2.20.34 ชม.

2. ไตรกีฬาระยะสั้นประเภทบุคคล Individual Sprint Triathlon (ว่ายน้ำ 750 ม. ปั่นจักรยาน 24 กม. วิ่ง 5 กม.) ชนะเลิศ ชาย ได้แก่ ทากายูกิ ซูมิดะ (ประเทศญี่ปุ่น) ทำได้ 1.08.31 ชม., ชนะเลิศ หญิง ได้แก่ วรรณษา จาติกวนิช (ไทย) ทำได้ 1.21.31 ชม.

3. ทวิกีฬาประเภทบุคคล Individual Duathlon (วิ่ง 5 กม. ปั่นจักรยาน 40 กม. วิ่ง 10 กม.) ชนะเลิศ ชาย ได้แก่ ณัฐนันท์ ขันทีท้าว (ไทย) ทำได้ 2.07.13 ชม., ชนะเลิศ หญิง ได้แก่ สุทธิดา อุดมชัย (ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ เวียดนาม) ทำได้ 2.22.51 ชม.

4. ไตรกีฬาระยะมาตรฐานประเภททีม Team Relay Standard Triathlon(ว่ายน้ำ 1.5 กม. ปั่นจักรยาน 40 กม. วิ่ง 10 กม.) ชนะเลิศ ได้แก่ ทีม 4025 (ไทย) ทำได้ 2.10.50 ชม.

5. รายการพิเศษ Adventure Dash (ว่ายน้ำ 350 ม. ปั่นจักรยาน 5 กม. วิ่ง 5 กม.) ชนะเลิศ ชาย ได้แก่ สิทธิ แสงสุข (ไทย) ทำได้ 35.25 นาที, ชนะเลิศ หญิง ได้แก่ พิชณัฐ ศรีภิรมย์ (ไทย) ทำได้ 42.10 นาที

การแข่งขันในคราวนี้ร่วมส่งเสริมให้ ผู้สนใจ ไตรกีฬา

อีกทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มีสุขภาพร่างกายที่ดี ปลุกศักยภาพ ของตัวเอง ทำลายขีดจำกัด และความกลัว เพราะว่าไตรกีฬา ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคน เข้าใจ

ไตรกีฬาไม่ใช่ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ความยากของไตรกีฬาอยู่ที่การจัดสรรเวลาและมีวินัย เท่านั้นเอง ซึ่งในคราวนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 400 คน โดยมีคุณพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร,คุณประภาส ทองสุขรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กร

คุณลิม ยง เทียน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์และสำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , คุณอุทัยวรรณ สุขพรรณพิมพ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารงานประสบการณ์ลูกค้า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

พร้อมกับ คุณบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร พัฒนา สปอร์ต รีสอร์ท และ C55 Events เข้าร่วมพิธีการเปิดการ แข่งขันในคราวนี้

ในงานนี้ได้มีเหล่า Celebrity, Net Idol สายสุขภาพ ที่มีความรักและสนใจในการออกกำลังกาย อาทิ “หลุยส์” อัมรินทร์ สิมะโรจน์ นักแสดง นักธุรกิจและนักการเมืองในระดับท้องถิ่น, คุณโท เรืองยศ มหาวรมากร ชายผู้เป็นแฟมิลี่แมน ตัวจริงและนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง

โดยมีชีวิตอีกขั้ว เป็นนักไตรกีฬา ระดับโปรที่มีผลงานการันตีความสามารถมาแล้วมากมาย, “ข้าวโอ๊ต” นุชราวดี ไชยสิงห์ จากสาวปาร์ตี้ สู่นางฟ้ามาราธอน เน็ตไอดอลสายสุขภาพ นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

เปิดเผยหลังจากปล่อยตัวเหล่านักไตรกีฬากว่า 400 คน ที่พร้อมใจคว้าแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ ชนะใจตนเองในการแข่งขันไตรกีฬารายการ ” CIMB THAI TRIATHLON FORWARD YOUR HEALTH 2022″ โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นว่าลงทุนที่คุ้มค่า

คือการลงทุนกับสุขภาพ ก็เลยเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพ ให้ทุกคนได้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น โดยร่วมกับ C55 Events จัดไตรกีฬาตลอดเป็นปีที่ 4 แล้ว

นายประภาส ทองสุข กล่าวว่า

“พวกเราเน้นย้ำการนำความยั่งยืน (Sustainability) มาประยุกต์ในทุกมิติของการจัดการแข่งขัน ซึ่งในการจัดงานวิ่งคราวนี้ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด (HMC Polymers) ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติก PP ของไทยภายใต้กลุ่ม GC

ด้วยการใช้ “PP Reborn ช่วยชีวิต PP กับ HMC Polymers” แพลตฟอร์มการพลาสติก ใช้แล้วประเภทต่าง ๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นพลาสติก PP มาจัดการภาชนะที่ใช้แล้วจากงานวิ่ง อีกทั้งแก้ว PP จานชาม PP เพื่อนำกลับเข้าสู่ระบบ อีกรอบ

ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มาร่วมงาน และให้งานวิ่งคราวนี้เป็นสัญลักษณ์ของความยืนยงอย่างแท้จริง”

ธนาคารเล็งเห็นว่า การลงทุนที่คุ้มค่า คือการลงทุนกับสุขภาพ โดยเหตุนี้ก็เลยเดินหน้ากับกิจกรรมเพื่อสุขภาพ ให้ทุกคนได้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น งานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 65 ณ พัฒนา สปอร์ต รีสอร์ท อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ติดตามชมภาพบรรยากาศงานได้ที่ www.facebook.com/CIMBTHAI และ www.c55events.com

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติ โปรตุเกส ถูกจับจ้องอีก จนกระทั่งได้ว่าเป็นนักฟุตบอล ฝอยทอง คนแรกที่เดินกลับเข้าอุโมงค์ ทันทีหลังจบเกม ฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมนัดถล่ม ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 6-1 เมื่อวันอังคารที่ 6 ธ.ค.

โรนัลโด้ ถูกดร็อปออกจากทีมตัวจริง เป็นครั้งแรกในเกมบู๊กับ สวิส โดยกุนซือ แฟร์นานโด ซานโต้ส เลือกส่ง กอนซาโล่ รามอส ลงสนามแทน แล้วก็เป็นการเดิมพัน ที่ถูกต้องเนื่องด้วยหัวหอกทีม เบนฟิก้า สร้างชื่อได้อย่างเยี่ยมด้วยการ กดแฮททริค ก่อนโดนเปลี่ยนออก ให้ศูนย์หน้าวัย 37 ปีลงเล่นแทนในนาทีที่ 73

อย่างไรก็ดี หลังจาก โปรตุเกส โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมพิชิต ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้อย่างเด็ดขาด นักฟุตบอล ฝอยทอง ก็พากันฉลองในสนามอยู่นาน แต่ โรนัลโด้ กลับเดินเข้าอุโมงค์เป็นคนแรก ทันทีโดยมีรายงานข่าวบอกว่าเขามีปัญหากับ ซานโต้ส ซึ่งหั่นเขาออกจากโผ 11 คนแรก

ขณะเดียวกัน โรนัลโด้ ยังยิงประตู

ในเกมรอบน็อคเอาต์ของ ฟุตบอลโลก ไม่ได้ต่อไปแม้จะส่งบอลผ่านมือ ยานน์ ซอมเมอร์ ได้สำเร็จ แต่เจ้าตัวล้ำหน้าอย่างชัดเจน

จัดเต็มทั้งคู่! โปรตุเกส มองถึงแชมป์ “โรนัลโด้” ตัวจริงดวล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

“ฝอยทอง” ของกุนซือ เฟร์นานโด ซานโต๊ส หวนจัดเต็มส่งชุดใหญ่ลงสนามนำโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ส่วนทาง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายใหญ่ มูรัต ยาคิน พาทีมมาไกลเกินคาดแนวรุกไว้ใจ บรีล เอ็มโบโล่ ล่าสกอร์สู้ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันอังคารที่ 6 ธันวาคมนี้

อันดับโลกล่าสุด

โปรตุเกส : อันดับ 9

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ : อันดับ 15

สนาม : ลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดี้ยม

โปรตุเกส ของเทรนเนอร์ เฟร์นานโด ซานโต๊ส แพ้ให้ เกาหลีใต้ มา 1-2 ในเกมล่าสุด แต่ยังเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาในฐานะแชมป์กลุ่ม เอช

ความพร้อมเกมนี้ ซานโต๊ส จะไม่มีทาง นูโน่ เมนเดส ที่เจ็บมาจากเกมกับ อุรุกวัย ด้าน โอตาวิโอ ยังต้องลุ้นความฟิตจากอาการเจ็บกล้ามเนื้ออีกที

ส่วน ดานิโล่ เปเรยร่า ก็คาดว่าจะเป็นอีกคนที่ยังไม่พร้อมลงสนามหลังเจ็บซี่โครง แต่แกนหลักคนอื่นอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ชูเอา เฟลิกซ์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, รูเบน ดิอาส แล้วก็ ชูเอา กานเซโล่ ยังพร้อมลงสนามช่วยทีม

การจัดกองทัพจะมาในระบบ 4-3-1-2 ให้ ดีโอโก้ คอสต้า เฝ้าเสา แนวรับมี ชูเอา กานเชโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส แล้วก็ ราฟาเอล แกร์เรโร่

แดนกลางวาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, วิลเลียม คาร์วัลโญ่ แล้วก็ รูเบน เนเวส ยืนคุมเกม โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำเกมรุกอยู่หลังคู่หน้าอย่าง ชูเอา เฟลิกซ์ แล้วก็ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ทางฝั่ง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ของเทรนเนอร์ มูรัต ยาคิน เชือดเอาชนะ เซอร์เบีย มาได้ 3-2 ทำให้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาด้วยการเป็นอันดับ 2 กลุ่ม จี

สภาพทีมเกมนี้ ยาคิน ต้องลุ้นความฟิตของ ยานน์ ซอมเมอร์ นายด่านมือชั้นยอดว่าจะพร้อมกลับมาลงสนามได้ไหม หลังมีอาการป่วย จนกระทั่งพลาดลงเล่นในเกมล่าสุด แต่คาดว่าจะฟิตทันลงเล่นในเกมนี้

ส่วนแกนหลักคนอื่นอย่าง กรานิต ชาคา, เซอร์ดาน ชากิรี่, มานูเอล อาคานจี, บรีล เอ็มโบโล่ แล้วก็ รูเบน วาร์กัส ยังพร้อมช่วยทีมดังที่เคย

การจัดกองทัพจะมาในระบบ 4-2-3-1 ให้ ยานน์ ซอมเมอร์ เฝ้าเสา แนวรับมี ซิลวาน วิดเมอร์, มานูเอล อาคานจี, นีโค่ เอลเวดี้ แล้วก็ ริคาร์โด้ โรดรีเกซ แดนกลางวาง เรโม่ฟรอยเลอร์ คุมเกมร่วมกับ กรานิต ชาคา โดยมี เชอร์ดาน ชากีรี่, ฌิบริล โซว์ แล้วก็ รูเบน วาร์กาส ยืนทำเกมรุกอยู่หลังหน้าเป้าอย่าง บรีล เอ็มโบโล่

รายชื่อนักเตะ ที่คาดว่าจะลงสนาม

โปรตุเกส (4-3-1-2) : ดีโอโก้ คอสต้า – ชูเอา กานเชโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส, ราฟาเอล แกร์เรโร่ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, วิลเลียม คาร์วัลโญ่, รูเบน เนเวส – บรูโน่ แฟร์นันด์ส – ชูเอา เฟลิกซ์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (4-2-3-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ – ซิลวาน วิดเมอร์, มานูเอล อาคานจี, นีโค่ เอลเวดี้, ริคาร์โด้ โรดรีเกซ – เรโม่ ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาคา – เชอร์ดาน ชากีรี่, ฌิบริล โซว์, รูเบน วาร์กาส – บรีล เอ็มโบโล่

ผู้ตัดสิน : เซซ่าร์ อาร์ตูโร่ รามอส (เม็กซิโก)

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด

วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน

• 13/06/22 เนชั่นส์ ลีกประเทศสวิตเซอร์แลนด์1 – 0โปรตุเกส
• 06/06/22 เนชั่นส์ ลีกโปรตุเกส4 – 0ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
• 06/06/19 เนชั่นส์ ลีกโปรตุเกส3 – 1ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
• 11/10/17 คัดบอลโลกโปรตุเกส2 – 0ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
• 07/09/16 คัดบอลโลกประเทศสวิตเซอร์แลนด์2 – 0โปรตุเกส

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

โปรตุเกส

• 02/12/22 แพ้ เกาหลีใต้ 1-2 (สนามกลาง) บอลโลก
• 28/11/22 ชนะ อุรุกวัย 2-0 (สนามกลาง) บอลโลก
• 24/11/22 ชนะ กานา 3-2 (สนามกลาง) บอลโลก
• 17/11/22 ชนะ ไนจีเรีย 4-0 (เหย้า) กระชับมิตร
• 27/09/22 แพ้ ประเทศสเปน 0-1 (เหย้า) เนชั่นส์ ลีก

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

• 02/12/22 ชนะ เซอร์เบีย 3-2 (สนามกลาง) บอลโลก
• 28/11/22 แพ้ บราซิล 0-1 (สนามกลาง) บอลโลก
• 24/11/22 ชนะ แคเมอรูน 1-0 (สนามกลาง) บอลโลก
• 17/11/22 แพ้ กานา 0-2 (สนามกลาง) กระชับมิตร
• 27/09/22 ชนะ เช็ก 2-1 (เหย้า) เนชั่นส์ ลีก

ไทยลุยแผนเสนอ ผู้จัดงานประชุมใหญ่ ไอโอซี 2023 ยันพร้อมจัด ยูธโอลิมปิก “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการ กีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)

เปิดเปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้า รวมทั้งโอกาสที่ประเทศไทย จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ จัดกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี พ.ศ.2573 หรือ ค.ศ. 2030 ไทยยังมีแผน ที่จะเดินหน้าเสนอในการขอรับการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬารายการนี้อยู่

“ที่ผ่านมา ก็มีการเดินหน้าแผนงาน รวมทั้งจัดกิจกรรมต่าง ๆ ล่าสุดไทยก็เป็นเจ้าภาพ ในการจัดงานเวิลด์ ยูธ เฟสติวัล แบงค็อก 2022 เทศกาลยุวทูต เยาวชนจากทั่วโลก ซึ่งมีการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมกีฬา รวมทั้งการศึกษา รวมทั้ง มีเยาวชนจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมงานที่ไทย เมื่อกลางเดือน พฤศจิกายน ที่ผ่านมา”

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวอีกว่า ได้รับทราบว่าประเทศอินเดียไม่สะดวกที่จะจัดการประชุมใหญ่ ของคณะกรรมการ โอลิมปิกสากล หรือไอโอซี ซึ่งหลังรับทราบไทยได้มีการประสานไปยังทางไอโอซี รวมทั้งแสดงความพร้อม ที่จะขอรับเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าว โดยจะมีขึ้นในปี 2023 แล้ว ซึ่งก็จะนับว่าเป็นโอกาสดีด้วย หายไทยได้รับเลือกให้จัด ก็หวังว่าจะใช้เวทีนี้ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ 2030 อย่างเป็นทางการในที่ประชุม

สำหรับกีฬา ยูธโอลิมปิก เกมส์ครั้งที่ 5 ในปี 2030

นอกเหนือจากประเทศไทย ที่มีความต้องการเสนอ เป็นเจ้าภาพ โดยคาดว่าจะใช้ กรุงเทพฯ รวมทั้งชลบุรี เป็นเมืองจัด แข่งขันแล้ว เมืองมุมไบ ของประเทศอินเดีย รวมทั้งเมืองกรุงการ์ตาเฮนา กับ เมเดลลิน ของประเทศโคลอมเบีย ยังมีความสนใจที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพด้วย ส่วนการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 4 จะมีขึ้นที่เมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล ในปี 2026

ไทยเดินหน้า จัดยูธโอลิมปิก2030เต็มที่เปิดเผย30ชาติแย่งเป็นเจ้าภาพ “คุณหญิงปัทมา เปิดเผย ไทย เดินหน้า เสนอตัวจัดกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ปี 2030 เต็มตัว กำหนด ตอนนี้มีชาติที่สนใจจัดการแข่งขันรายการนี้มากกว่า 30 ชาติ มีอีกทั้ง อินโดนีเซีย, ประเทศอินเดีย รวมทั้งประเทศในยุโรปตะวันออก คาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน ด้วยเหตุว่าเป็นมหกรรมกีฬาที่มีความสำคัญอย่างมาก หลายชาติจึงสนใจเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการ โอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) เปิดเปิดเผยว่า โธมัค บาค ประธานไอโอซี ได้ฝากความชื่นชมไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประเทศไทยส่งเสริม เกื้อหนุน รวมทั้งสนับสนุนกีฬาทุกมิติ ทุกรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การสร้างนักกีฬา การเผยแพร่ให้คนในชาติออกกำลังกาย รวมถึงเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาหลายรายการ ซึ่ง ประธานไอโอซี ได้ขอบคุณรัฐบาลไทย นายกรัฐมนตรีไทย และ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รการท่องเที่ยวรวมทั้งกีฬามาในโอกาสนี้ด้วย

ส่วนกรณีที่ประเทศไทย ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด การแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ปี 2030 นั้น คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า ตอนนี้ทุกอย่างเดินหน้าอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็มีชาติที่สนใจ จัดการแข่งขันรายการนี้มากกว่า 30 ประเทศ อีกทั้ง อินโดนีเซีย, ประเทศอินเดีย และประเทศในยุโรปตะวันออก โดยคาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงหลังจากสถานการณ์ วิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

ทุกชาติจึงอยากที่จะเร่ง พัฒนาส่งเสริมเกื้อหนุนการกีฬา ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่ากีฬาช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของสังคม โดยเหตุนี้เกมนี้จึงเป็นต้องการของหลายชาติ

สำหรับกฎเกณฑ์ สำคัญในการ ยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

ทางไอโอซี ไม่ต้องการให้สร้างสนามใหม่ ห้ามใช้งบประมาณมากเกินไป ต้องใช้สนามที่มีอยู่แล้ว ปลุกให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา รักษาสภาพแวดล้อม สร้างการรับรู้ ในกลุ่มเด็ก รวมทั้งเยาวชนให้ทราบดีว่า กีฬามีความสำคัญอย่างไร ให้ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าของโอลิมปิก คือ การเคารพกัน มิตรภาพ รวมทั้งความเยี่ยม ทำให้เกิดน้องๆนักกีฬาให้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ให้กีฬาอยู่ในชีวิตของเด็ก รวมทั้งเยาวชน และประชาชนของประเทศให้ได้

“หลังจากได้บอกคุยกับ โธมัส บาค ได้มีการจัดประชุมกลุ่มย่อยกับ คณะกรรมการเก็บข้อมูลพรีเซนเทชั่นต่อที่ประชุม เพื่อคัดเลือก สรรก่อนพรีเซนเทชั่นขึ้นไป เป็นลำดับขั้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางไอโอซี ยังไม่ได้แจ้งว่าจะประกาศชาติ ที่จะได้รับเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬายูธ โอลิมปิกเกมส์ 2030 เมื่อใด แต่ตอนนี้ชาติที่ต้องการเสนอตัว จะต้องส่งข้อมูลรายการเข้าไปเรื่อย ๆ ” คุณหญิงปัทมา กล่าว

ผู้แทนภาคประชาชน ลุยฟ้องศาลปกครอง เอาผิดผู้ว่า กกท.-กสทช. ปมถ่ายทอดสด บอลโลก เอื้อประโยชน์แค่ “ค่ายมือถือดัง” ค่ายเดียว แต่ยี่ห้ออื่นต้องจอดำ ยันละเมิดข้อกำหนดกองทุนฯ-กฎหมายชัดแจ้ง

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2565 ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ น.ส.กุลธิดา เกิดแก่นแก้ว ทนายความผู้ฟ้องร้องคดีผู้ได้รับมอบอำนาจให้ เป็นผู้แทน นายนพดล วงศ์วิหค ผู้แทนประชาชน เข้ายื่นฟ้องผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (ผู้ว่า กกท.) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และที่ทำการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

โดยขอให้ศาลพิจารณา พิพากษาหรือมีมาตรการคุ้มครองและมีคำร้องขอ สงเคราะห์ชั่วคราวโดยเร่งด่วนเพราะ กกท.ในฐานะผู้ซื้อและได้รับลิขสิทธิ์การเผยแพร่เสียง เผยแพร่ภาพ การถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 จากสหพันธ์ ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA ผ่านบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในค่า 1,300 ล้านบาทโดยเงินจำนวน ครึ่งหนึ่งคือ 600 ล้านบาทมาจากกองทุนวิจัยและพัฒนา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ส่วนที่เหลือได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนต่างๆหนึ่งในนั้นคือบริษัทค่ายมือถือชื่อดังซึ่งสนับสนุน เงินจำนวน 300 ล้านบาทตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนเสนอตามพระราชบัญญัติองค์กร จัดสรรคลื่นความถี่และควบคุมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ 2543 เป็นการจัดสรรเงินจากกองทุนให้ ไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเพื่อให้ประชาชน สามารถรับชมรายการดังกล่าวได้อย่างทั่วถึงรวมทั้งส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนด้อยโอกาส ให้เข้าถึงและรับรู้ใช้ประโยชน์จากรายการดังกล่าวได้อย่างเท่าเทียมกันกับคนทั่วๆไป โดยไม่เลือกปฏิบัติและยังเป็นภารกิจของ กสทช.ที่ต้องควบคุมดูแลให้การถ่ายทอดสดเป็นไปโดยถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย

แต่ผลที่ตามมา กกท.ทำสัญญาให้สิทธิในการใช้ลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดเพียงแต่บริษัทเดียว

คือบริษัทที่เป็นค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ถ่ายทอดสดผ่านระบบ IPTV ระบบอินเตอร์เน็ต และระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมทั้งระบบอื่นๆของค่ายมือถือดังกล่าวแต่กลับมีการปิดกั้นช่องทางการเผยแพร่กล่องรับสัญญาณของค่ายมือถืออื่นและระบบอื่นๆซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดกับเจตนารมณ์ของประกาศ Must Have Must Carry ที่ต้องการให้ประชาชนสามารถรับชมได้อย่างทั่วถึงและ ทุกช่องทางซึ่งการระงับดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายอีกทั้ง 2 หน่วยงานถือว่าเป็นการปล่อยปละละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดสรรให้ประชาชนได้รับชมอย่างทั่วถึงและไม่เลือกปฏิบัติ

น.ส.กุลธิดา กล่าวเพราะว่า จากข้อมูลมองเห็นได้ชัดว่ามีประชาชนจำนวนเกือบจะ 1 ล้านคนที่มีกล่องรับสัญญาณของระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ตยี่ห้ออื่น ๆ มากกว่า 1 ล้านคนที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสด บอลโลก จึงทำให้ภาคประชาชนตัดสินใจเข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเพื่อลดภาระหน้าที่ให้กับประชาชน ดังนี้ถ้าเกิดศาล จะมีความมองเห็นรับฟ้อง และให้สอบสวนเร่งด่วนในบ่าย วันนี้หรือในวันต่อ ๆ ไปทีมกฎหมายก็พร้อมจะเข้าแจกแจงเรื่องดังกล่าว โดยพยานหลักฐานสำคัญคือข้อกฎหมายตามที่ระบุไปข้างต้น และข้อกำหนดของกองทุนวิจัยและพัฒนาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พร้อมกับได้เตรียมพยานหลักฐานอื่น ๆ ไว้เพื่อต่อสู้ในชั้นสอบสวนแล้ว เพื่อเรียกร้องความชอบธรรมและความเท่าเทียมกันให้กับประชาชนคนรับชมทุกคน

บอลโลก จอดำ กับเงิน 300 ล้าน กฎ MUST CARRY ที่ใช้ไม่ได้จริง

เพราะเหตุไรยังมีการ “จอดำ” เกิดขึ้นในการถ่ายฟุตบอลโลก แม้จะมีกฎ Must Carry แล้วก็ตาม และเพราะเหตุไรค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ถึงมีอำนาจในการถือลิขสิทธิ์แต่คนเดียวทั้ง ๆ ที่ช่วยจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์แค่ 25% เท่านั้น สำนักข่าว TODAY จะอธิบายทุกอย่างให้เข้าใจง่ายที่สุดใน 18 ข้อ

1) ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก ในตอนแรกถูกตั้งราคาสูงถึง 1,600 ล้านบาท แต่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปต่อรองกับทุกฝ่ายแล้ว สามารถซื้อจากฟีฟ่าได้ในราคา 1,180 ล้านบาทเท่านั้น

2) ด้วยความที่เป็นเงินก้อนใหญ่ อีกทั้งมีกฎ Must Have (บังคับให้ฟุตบอลโลก ต้องถูกฉายทางฟรีทีวีเท่านั้น) ทำให้พวกกลุ่ม Pay TV ไม่ยอมซื้อลิขสิทธิ์ เนื่องจากซื้อมาก็ต้องโดนบังคับให้ฉายลงฟรีทีวีอยู่ดี ไม่สามารถเก็บเงินลูกค้าได้แบบ Exclusive

เมื่อไม่มีใครซื้อสักที จนถึงบอลจะเตะอยู่แล้ว ทางกกท. ต้องไปขอเงินจาก กสทช. ให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยกสทช. อนุมัติงบมา 600 ล้านบาท ทำให้ กกท. ต้องหาเงินอีก 580 ล้านบาทที่เหลือให้ทันก่อนถึงเดดไลน์ วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ฟุตบอลโลกเริ่มแข่งวันแรก

3) กกท. พยายามติดต่อไปที่หลายองค์กรเอกชน แต่มีเพียงแต่ 3 องค์กรที่พร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือในการร่วมซื้อลิขสิทธิ์ บอลโลก ประกอบด้วย ไทยเบฟ, ปตท. และ กลุ่มค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ โดยบริษัทที่จ่ายเงินมากที่สุด เป็นจำนวนเงิน 300 ล้านบาท ซึ่งเมื่อได้เงินช่วยเหลือจากเอกชน ทำให้กกท. รวมเงินได้ครบ สามารถเอาไปซื้อลิขสิทธิ์บอลโลกได้ทันเวลา

4) แต่สำหรับเงิน 300 ล้านบาท ที่จ่ายเงินช่วยเหลือกกท. ไม่ได้ให้แบบกินเปล่า แต่เป็นเงินก้อนที่แลกเปลี่ยนกับ การขอสิทธิ์ TV Rights และ IPTV Rights ในประเทศไทย

5) สิทธิ์ TV Rights คือ สามารถนำฟุตบอลโลกมาลงช่องฟรีทีวี ทางช่องได้ ส่วนหนึ่ง และมีสิทธิ์ได้เลือกคู่ก่อนสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น ๆรวมทั้งสามารถฉายฟุตบอลโลกอีกทั้ง 64 นัด ได้ครบทุกคู่

6) ส่วนสิทธิ์ IPTV Rights อธิบายให้เข้าใจง่ายคือ การดูผ่าน “กล่อง” ที่ดูคอนเทนต์ผ่านอินเตอร์เนต จะสามารถทำได้เฉพาะกล่องของค่ายเท่านั้น นั่นคือ แต่กล่องของค่ายอื่น ๆ ไม่สามารถดูได้ แปลว่า แนวทางแก้ปัญหาของคนที่ใช้กล่องเหล่านี้ก็ต้องไปพบซื้อหนวดกุ้งเพื่อมาจูนสัญญาณรับจากทีวีดิจิทัลปกติเอาเอง

7) ดราม่าเรื่องแรก คือในฟุตบอลโลก 64 นัด ทางค่ายมือถือขอสิทธิ์ถ่ายทอดสดผ่านทางช่องตนเอง มากถึง 32 นัด (50% ของจำนวนคู่ทั้งหมด) แถมยังได้สิทธิ์เลือกนัด ก่อนช่องอื่นอีกต่างหาก

8 ) ทำให้สมาคมทีวีดิจิทัล ที่เป็นการรวมตัวของช่องอื่น แสดงความไม่พอใจ เนื่องจากเห็นว่าจ่ายเงิน 300 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 25% เท่านั้น ของเงินทั้งก้อนที่กกท. จ่ายให้ฟีฟ่า ด้วยเหตุนี้ก็จะต้องมีสิทธิ์ได้ถ่ายทอดสดแค่ 25% (16 นัด) ไม่ใช่ 50% (32 นัด) อย่างที่ขอมา

9) ฝั่งผู้ที่ได้การสนับสนุน ก็โต้โต้แย้งว่า ในเมื่อเป็นคนช่วยเหลือ 300 ล้านบาท แต่ทีวีช่องอื่นไม่ช่วยจ่ายแต่แรก ได้แต่รอเงินรวมจากกสทช. ด้วยเหตุนี้ก็จะต้องมีสิทธิ์ที่จะได้ความ Exclusive ในการถ่ายทอดครั้งนี้ ซึ่งทางสมาคมทีวีดิจิทัลก็ตอบโต้ว่า ได้สิทธิ์พิเศษน่ะใช่ แต่ 50% ขนาดนี้มันก็เกินไป

10) นั่นทำให้สมาคมทีวีดิจิทัล ไปแจ้งกสทช. ให้พิจารณา และสุดท้ายหลังการปรึกษาขอคำแนะนำด้วยกัน ทางค่ายมือถือก็ยอม ให้สมาคมทีวีดิจิทัลถ่ายทอดสด 16 คู่ ขนานกันไปได้ โดยแบ่งเป็นรอบแรก 14 นัด, รอบชิงที่สาม 1 นัด และ รอบชิงชนะเลิศ 1 นัด ตัวอย่างเช่น ในรอบชิง ผู้ชมสามารถดูได้ทางช่องทางค่าย หรือ ช่อง 7HD ก็ได้

11) ดราม่าเรื่องแรกสะสางไป มาสู่ดราม่าที่สองนั่นคือ ประเด็นสิทธิ์ IPTV Rights ตามจริงด้วยกฎของกสทช. ที่เคยออกไว้ในปี 2012 ที่ชื่อ “Must Carry” ระบุว่า รายการที่ถูกฉายในฟรีทีวี ต้องดูได้ทุกช่องทาง จะเป็นกล่องอะไรก็แล้วแต่ จะไม่มีการจอดำเด็ดขาด คุณจะใช้กล่องหรือดาวเทียม อะไรก็ตาม แต่ทีวีดิจิทัลพื้นฐาน 20 ช่อง ต้องดูได้ทั้งหมด

12) อย่างไรก็ตาม ค่ายมือถือ ไม่ยอม เนื่องจากตัวเองเป็นคนจ่ายเงินส่วนหนึ่งซื้อลิขสิทธิ์มา จึงบล็อกกล่อง IPTV อื่น ๆ จนถึงเป็น “จอดำ” ดูบอลโลกไมได้ ซึ่งเรื่องนี้ ขัดกับกฎ Must Carry ที่กสทช. เคยวางเอาไว้

13) นั่นทำให้ วันที่ 23 พฤศจิกายน อีก2ค่ายมือถือ ที่เหลือ ไปแจ้งกสทช. ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ โดยทางกสทช. ก็รับลูก แล้วได้ส่งเอกสารแจ้งไปว่า คุณต้องปฏิบัติตามกฎ Must Carry สิ จะมาทำให้คนอื่นจอดำแบบนี้ไม่ได้

14) ทางค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ไม่ยอมอีก พวกเขาได้ยื่นฟ้องไปที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ออกคำสั่งไม่ให้ช่องอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของค่ายมือถือเอง ถ่ายทอดสด บอลโลก เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิ์ ที่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการเผยแพร่การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 แต่คนเดียวในประเทศไทย

15) ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ ซึ่งเป็นผู้เสียหายไว้ก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยตัดสินคดีกันทีหลัง นี่เป็นการวินิจฉัยที่เป็นคุณกับฝั่งค่ายมือถือ เนื่องจากกว่าศาลจะตัดสินอะไรกันเสร็จ ฟุตบอลโลกก็จบไปแล้ว จัดว่าเข้าทางทุกอย่าง

สถานการณ์ตอนนี้ จอทีวีของกล่อง IPTV

เจ้าต่าง ๆ ก็กลับมาดำอีกรอบ เท่ากับว่า กฎ Must Carry ไม่สามารถใช้การได้จริงตามแนวคิด เนื่องจากกฎหมายจากศาลทรัพย์สินทางปัญญามีพลังมากกว่า

16) สำหรับการขอให้ศาลช่วยให้คู่แข่งจอดำ แบ่งความมองเห็นของประชาชนออกเป็นสองฝ่าย

ฝ่ายแรกนั้นตั้งข้อสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากออกเงินช่วยซื้อลิขสิทธิ์แค่ 25% แต่เพราะเหตุไรได้อำนาจมากมายขนาดนี้ ได้เข้าถึงสิทธิ์ทั้งหมดทุกอย่าง (เคเบิล ดาวเทียม IPTV การดูบนมือถือ ดูบนอินเตอร์เน็ต) แถมได้เลือกคู่ทางฟรีทีวีก่อนใครอีกต่างหาก

ในเอกสารของฟีฟ่าระบุว่า องค์กรที่ฟีฟ่าขายสิทธิ์ Broadcasting ให้ คือการกีฬาแห่งประเทศไทย แล้วเพราะเหตุไรทรูถึงอ้างได้ว่า ตัวเองเป็น “ผู้ได้รับสิทธิ์ในการเผยแพร่การแข่งขันแต่คนเดียว” กกท. ไปตกลงกันอย่างไร เพราะเหตุไรปล่อยให้คนจ่ายเงิน 25% ควบคุมทุกอย่างแบบนี้ มีความโปร่งใสกันจริงหรือไม่
นอกจากนั้นยังวิจารณ์กฎ Must Carry ว่าสุดท้ายจะมีไว้เพราะเหตุไร ในเมื่อไม่สามารถใช้การจริงได้ ถ้าเกิดจะได้สิทธิ์ขนาดนั้น กสทช. ที่เป็นองค์กรรัฐ ก็ไม่ควรควักกระเป๋าแต่แรก หากจ่ายเองคนเดียว แล้วจะถือสิทธิ์คนเดียว แบบนั้นก็ว่าไปอย่าง

17) แต่อีกฝ่ายหนึ่งที่ช่วยเหลือ จะยกเคสโอลิมปิก 2020 มาอ้าง โดยในครั้งนั้นอีกค่ายก็ได้ ซื้อลิขสิทธิ์โอลิมปิกเอาไว้ก็จริง แต่กสทช. ก็เอางบรัฐ 240 ล้านบาท มาช่วยจ่ายให้แบบเดียวกัน ตอนโอลิมปิกที่โตเกียว กล่องอื่น ๆ เช่นค่ายยักษ์ใหญ่ก็จอดำดูไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน คราวนี้ อีกค่าย ก็ต้องจอดำบ้าง

แล้วการจอดำ เอาจริง ๆ ก็เกิดขึ้นเฉพาะ IPTV เท่านั้น ไม่ได้มีการปิดกั้นการดูแบบพื้นฐาน นั่นคือเสาอากาศแบบก้างปลาก็ยังดูได้ คือเอาจริงๆประชาชน หากพยายามหน่อยก็ยังพอหาวิธีดูได้

นอกจากนั้น ประเด็นเรื่องธุรกิจก็สำคัญเช่นเดียวกัน เนื่องจาก เป็นคนจ่ายเงิน 300 ล้านบาท แม้จะเป็นแค่ 25% แต่ก็จัดว่ายังช่วยออก หากไม่ยอมจ่าย การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกก็คงไม่มีแต่แรกแล้วด้วย หากช่องอื่นไม่พอใจ เพราะเหตุไรตอนที่กกท. ต้องการเงินสนับสนุนถึงไม่มาช่วยแต่แรกล่ะ หากคุณจ่าย คุณก็อาจได้สิทธิพิเศษแบบที่ได้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เมื่อจ่ายเงินไปแล้ว คู่แข่งโดยตรง จะมานอนกินง่าย ๆตามกฎ Must Carry คงยอมไม่ได้

18) บทสรุปของเรื่องนี้ ด้วยคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แปลว่า คู่แข่ง ก็จะจอดำไปจนถึงจบทัวร์นาเมนต์ ประชาชนก็ต้องไปแก้ปัญหากันเอาเองหากต้องการดูฟุตบอล จะซื้อกล่อง TrueID TV หรือ ซื้อเสาก้างปลาก็ว่ากันไป

ขณะที่กกท. ก็ถูกเรียกร้องความบริสุทธิ์ใจด้วยการเปิดเปิดเผยสัญญาที่มีกับทรู ว่าเพราะเหตุไรคนจ่ายเงิน 25% มีพาวเวอร์มากขนาดนี้ ตอนที่ระดมทุนแรกสุดได้แจ้งเอกชนรายอื่นหรือ

พวกพ้องเซเลเซา แซมบ้า เล่นได้ไฉไลเป็นบ้า สมราคาของ ‘เต็งหนึ่ง’ ที่จะคว้าแชมป์ บอลโลก ขบวนนี้ ด้วยการอัด เซอร์เบีย ไปแบบเบาะๆ’พอดีคำ’ ด้วยสกอร์ 2-0 และก็ถัดไปคือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก

1. ดู บราซิล เล่นฟุตบอลแล้วสนุกสนาน & เพลินใจดี ด้วยการเน้นเกมรุกบุกแหลกพลางโชว์ลีลาท่าทางการเล่นที่พราวแพรวน่าตื่นตาตื่นใจดีนัก

2. ความจริง พวกเขาควรจะชนะมากกว่านี้ หากดูจากจังหวะที่น่าจะได้ประตู พวกเขาน่าจะกระหน่ำคู่แข่งได้ถึง 5 ประตูด้วยซ้ำ เมื่อครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว โดยมีโอกาสทะลวงตาข่ายมากกว่า 20 ครั้ง เพียงแค่แต่มักจะมาตายในจังหวะสุดท้าย จัดว่าใช้โอกาสอย่างสิ้นเปลืองไปหน่อย

3. อีกจุดคือผู้เล่นแนวรุกยังติดนิสัยพ่อเลี้ยงมากไปนิด

บ่อยที่จ่ายจังหวะแรกจะดีกว่า พวกพี่ๆเขาต้องขอลาก ขอเลื้อย ขอหมุน และก็ขอโชว์สเต็ปสักจังหน่อยก่อนส่ง

แต่ทว่าการใช้ความสามารถเฉพาะบุคคล มันเป็นสไตล์ของพวกบราซิเลี่ยน มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

4. ครึ่งแรก หัวหอกตัวเป้าอย่าง ริชาร์ลิสัน ราวกับถูกเอเลี่ยนลักพาตัวไป ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ เหมือนกับช่วงต้นครึ่งหลังกระทั่งหมิ่นเหม่ต่อการถูกเปลี่ยนตัวออกยิ่งนัก

ทันใด…โผล่ออกมากระทุ้งประตูนำ 1-0 ซะอย่างนั้น

ส่วนประตู 2-0 ที่เขากระดกบอลขึ้น ก่อนโดดฟาดเข้าไปตุงตาข่ายในท่ากงจักรนรก ใครไม่ได้มองเห็น จัดว่าพลาด

สำหรับผม นี่คือประตูดีที่สุดและก็สะเด่าที่สุดของฟุตบอลโลก 2022 นับตั้งแต่นัดเปิดสนามเลยทีเดียว

5. แค่เกมแรก บราซิล แสดงแสนยานุภาพด้วยการใช้ผู้เล่นในหน่วยล่าสังหารไปเกือบจะครบทุกคนอันประกอบด้วย เนย์มาร์, ริชาร์ลิสัน, ราฟินญ่า, วินิซิอุส เจอาร์, โรดรีโก้, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และก็อันโตนี่

ขาดแค่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เอ๊ย! ขาดแค่ เปโดร เพียงแค่คนเดียวที่ไม่ได้ลงสนาม

10 ทีมเต็งแชมป์ บอลโลก 2022 จากกูรูต่างประเทศ

ใครจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

• อันดับ 10. เดนมาร์ก

ผู้ครอบครองผลงานเข้ารอบรองชนะฟุตบอลยูโรป 2020 ที่ผ่านมา และก็เป็นชาติลำดับที่ 2 ของโลกที่การันตีได้สิทธิ์เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกครั้งนี้ เดนมาร์ก แม้จะไม่มีซูเปอร์สตาร์แต่เล่นด้วยระบบทีมที่ดีที่สุด เหนียวแน่นแพ้ยากกระทั่งเป็นที่จับตาว่าจะเป็นม้ามืดในเวิลด์คัพครั้งนี้ เดนมาร์กอยู่ร่วมสายกับ ฝรั่งเศส, ตูนิเซีย และก็ประเทศเปรู

• อันดับ 9. เนเธอร์แลนด์

อีกหนึ่งยอดเยี่ยมทีมที่เคยทะลุเข้าชิงแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 3 สมัย แต่โชคร้ายยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกหากแม้แต่ครั้งเดียว เนเธอร์แลนด์ชุดนี้ผสมผสานดาวรุ่งและก็แข้งตัวเก๋าอย่างลงตัว แถมยังมี หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมจอมปรัชญาเป็นผู้นำที่สำคัญ เนเธอร์แลนด์อยู่สายไม่หนักโดยมีเพื่อนร่วมสายอย่าง กาตาร์, เซเนกัล และก็เอกวาดอร์

• อันดับ 8. โปรตุเกส

โปรตุเกสชุดนี้ถูกคิดว่าเป็นชุดที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษก็ว่าได้มีแข้งอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ แฟร์นานเดส, แบร์นาโด้ ซิลวา และก็ ดิเอโก้ โชต้า สำหรับโปรตุเกสอยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้หนักมากร่วมสายกับ กาน่า, อุรุกวัย และก็เกาหลีใต้

• อันดับ 7. ประเทศเบลเยี่ยม

ผู้ครอบครองอันดับ 3 ฟุตบอลโลกสมัยที่แล้ว และก็กลายเป็นทีมอันดับหนึ่งของโลกตลอดเกือบจะ 4 ปีที่ผ่านมาจากการจัดอันดับของฟีฟ่า แต่ว่าล่าสุดตกมาเป็นอันดับ 2 โดยถูกบราซิลแซงหน้าขึ้นไป สำหรับประเทศเบลเยี่ยมมีสตาร์ดังอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู และก็เอแด็ง อาซาร์ อยู่ร่วมสายกับโครเอเชีย, แคนาดา และก็โมร็อกโก

• อันดับ 6. เยอรมัน

หนึ่งในทีมที่มาตรฐานสูงที่สุดและก็เคยเข้าชิงฟุตบอลโลกมากสมัยที่สุด แชมป์โลกครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 สำหรับเยอรมันชุดนี้ผสมผสานผู้เล่นตัวเก๋าและก็ดาวรุ่งฝีเท้าดี ภายใต้ผู้จัดการทีมยอดฝีมืออย่างฮันซี่ ฟลิค เยอรมันอยู่ร่วมสายกับ ประเทศสเปน, ประเทศญี่ปุ่น และก็คอสตาริก้า

• อันดับ 5. อาร์เจนติน่า

ผู้ครอบครองแชมป์โคปา อเมริกาสมัยล่าสุด และก็อดีตรองแชมป์โลกปี 2014 โดยแพ้ให้เยอรมันนัดชิง สิ่งที่น่าจับตามองก็คือนี่อาจเป็นการเล่นทีมชาติครั้งสุดท้ายของลิโอเนล เมสซี่ก็เป็นได้ อาร์เจนติน่า อยู่ร่วมสายกับ ซาอุดิอาระเบีย, โปแลนด์ และก็เม็กซิโก

• อันดับ 4. ประเทศสเปน

อดีตแชมป์โลกปี 2010 ที่ระยะหลังมาตรฐานดูตกลงไปหลังไม่มีผู้เล่นซูเปอร์สตาร์อย่าง อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดส, เชส ฟาเบรกาส, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาบิด บีญ่า และก็ชาบี อลอนโซ่ อย่างไรก็ตามประเทศสเปนยุคใหม่มีดาวรุ่งฝีเท้าดีที่รอวันฉายแสงทั้งยัง เปดรี้, กาบรี้ สองแข้งจากบาร์ซ่า มิเกล ออยาร์ซาบาล จากเรอัล โซเซียดัด และก็เคราร์ด โมเรโน่ จากบียาร์เรอัล ประเทศสเปนอยู่ร่วมสายกับ เยอรมัน, ประเทศญี่ปุ่น และก็คอสตาริก้า

• อันดับ 3. อังกฤษ

หนึ่งในทีมที่ถูกตั้งความหวังไว้สูงทุกหนและก็ดูดุจว่าครั้งนี้จะใกล้เคียงที่สุดหลังจากพึ่งจะคว้ารองแชมป์ยูโร 2020 มาครองได้ และก็ฟุตบอลโลกครั้งที่รวมทั้งทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะมาแล้วถือเป็นยุคที่มีผลงานที่จับต้องได้ อังกฤษร่วมสายกับ อิหร่าน, สหรัฐฯ และก็เวลส์

• อันดับ 2. ฝรั่งเศส

แชมป์เก่าฝรั่งเศสถูกยกให้เป็นเต็ง 2 ซึ่งดูจากขุมกำลังก็จัดว่ายังแข็งแกร่งและก็มีผู้เล่นตัวหลักจากชุดคว้าแชมป์โลกครั้งที่แล้วมากมากแนวรุกมีทั้งยัง คาริม เบนเซม่า, คีเรียน เอ็มบัปเป้ และก็อุสมาน เดมเบเล่ กองกลางมีปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ฝรั่งเศสอยู่ร่วมสายกับ เดนมาร์ก, ตูนีเซีย และก็ประเทศเปรู ซึ่งจัดว่าไม่หนักเลยน่าจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่ามักตกรอบแรกอย่างที่เคยประสบมาแล้ว

• อันดับ 1. บราซิล

ผู้ครอบครองแชมป์โลก 5 สมัยซึ่งมากที่สุดเหนือทุกทีม ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์โซนอเมริกาใต้ด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดนี้เองทำให้ทีมแซมบ้าก้าวขึ้นมายึดหมายเลขหนึ่งของโลกแทนที่ประเทศเบลเยี่ยมได้สำเร็จ บราซิลจะอยู่ร่วมสายกับ สวิตเซอร์แลนด์, เซอร์เบีย และก็แคเมอรูน

ฝรั่งเศส หวังลบอาถรรพ์ ทีมแชมป์โลกที่ต้องโบกมือลาเวิลด์คัพตั้งแต่รอบแรก หลัง 3 ทีมแชมป์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทำไม่สำเร็จ สื่อคาด “เดส์ชองส์” ส่ง เอ็มบัปเป้, ชิรูด์ และ กรีซมันน์ ล่าตาข่าย

แชมป์โลก 3 ชาติก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่ อิตาลี (2006), สเปน (2010) และ เยอรมนี (2014) ต่างตกรอบแรกในสมัยต่อมา ถือเป็นอาถรรพ์ที่ ฝรั่งเศส ผู้ครอบครองแชมป์เมื่อปี 2018 หวังจะลบล้างให้ได้ แม้ว่าขุมกำลังของกองทัพตราไก่ในปีนี้ จะแตกต่างจากเดิม แต่การขาดกำลังสำคัญอย่าง คาริม เบนเซม่า ดาวยิงที่พึ่งจะคว้าบัลลงดอร์มาครอง ก็ทำให้กูรูหลายสำนักเห็นว่าโอกาสป้องกันแชมป์ของฝรั่งเศสยากขึ้นกว่าเดิม

โดยกองทัพตราไก่ของ เดส์ชองส์ จะลงประเดิมสนามนัดแรกคู่มืดค่ำคืนนี้ เจอกับ ออสเตรเลีย ซึ่งการตัดสินใจไม่เรียกนักฟุตบอลมาแทน เบนเซม่า ทำให้สื่อวิเคราะห์กันว่า โอลิวิเยร์ ชิรูด์ จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ล่าตาข่ายร่วมกับ คิเลียน เอ็มบัปเป้ และ อ็องตวน กรีซมันน์ เพราะเหตุว่าดูจากการให้สัมภาษณ์ของ เดส์ชองส์ ที่ชมและปกป้อง ชิรูด์ ว่าเป็นกองหน้าที่มีประโยชน์กับทีม แม้ว่าจะทำประตูได้ไม่มากก็ตาม

ข่าวไม่ดีนิดหน่อยของฝรั่งเศส คือ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า มิดฟิลด์เรอัล มาดริด เจ็บกล้ามเนื้อจนพลาดลงฝึกซ้อมครั้งล่าสุดและจะไม่มีชื่อในเกมนี้ แต่พวกเขาได้ ราฟาเอล วาราน สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาพร้อมเป็นตัวจริง

คู่นี้ พึ่งเจอกันมาแล้วในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่รัสเซีย ซึ่งฝรั่งเศส ชนะ 2-1 จากจุดโทษของ กรีซมันน์ ส่วน ออสเตรเลีย เคยชนะเพียงแต่ 1 ครั้งเท่านั้น เมื่อ 21 ปีก่อนในฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2001

“ชิรูด์” ยิงเบิ้ลทาบดาวซัลโวสูงสุด! ฝรั่งเศส ไว้ลาย แชมป์เก่า รัวยำ ออสเตรเลีย

“ตราไก่” ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังแม้โดนนำไปก่อนแต่รวมพลังไล่ยำแซง “ออสเตรเลีย” 4-1 จากผลงานของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เหมาสองประตูขึ้นไปทาบดาวซัลโวสูงสุด ที่ 51 ประตูเท่า อองรี พาทีมเก็บ 3 คะแนนเปิดหัว ฟุตบอลโลก 2022 ยึดจ่าฝูง กลุ่ม ดี

ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์ของ ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่าเมื่อปี 2018 พาทีมลงสนามล่าสุด พ่ายแพ้ต่อ เดนมาร์ก 0-2 ในศึก เนชั่นส์ ลีก ส่วนผลงานในรายการนี้ ทีมตราไก่ เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้หลังจากจบในฐานะแชมป์ของกลุ่ม ดี ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป

ทางด้าน แกรม อาร์โนลด์ เทรนเนอร์ของทีมชาติออสเตรเลีย พาทีมลงสนามล่าสุดเอาชนะ นิว ซีแลนด์ 2-0 ในเกมอุ่นเครื่อง ส่วนผลงานในรายการนี้ กองทัพจิงโจ้ เข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายหลังจาก ดวลจุดโทษเอาชนะ ประเทศเปรู 5-4 ในรอบเพลย์ออฟระหว่างโซนเอเชียกับโซนอเมริกาใต้ (ในเวลาเสมอกัน 0-0)

เปิดฉากครึ่งแรก 9 นาทีกลายเป็น ออสเตรเลีย ทะยานออกนำ 1-0 จากบอลยาวทิ้งออกขวาให้ แม็ทธิว เล็คกี้ ล็อคหนี ลูกัส แอร์กน็องเดซ ได้ช่องปาดเข้ากรอบ 6 หลาโค้งมาเสาไกลถึง เคร็ก กู๊ดวิน ชาร์จด้วยซ้ายสวนตัว อูโก้ โยริส เสยเพดานตาข่าย

นาทีที่ 22 “ตราไก่” แทบงานเข้าเสียบอลง่ายๆหน้ากรอบเขตโทษให้ มิทเชลล์ ดุ๊ค เก็บส้มหล่นก้มหน้า ตะบันด้วยขวาติดไซค์ก้อยพุ่งผ่านมือ อูโก้ โยริส หลุดเสาแรกหน่อยเดียว

แต่แล้วนาทีที่ 27 “แชมป์เก่า” ตามตีเสมอ 1-1 จนได้จากความผิดพลาดของ ออสเตรเลีย สกัดบอลไม่ขาด เตโอ เอร์นานเดซ เก็บตกหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายหยอดโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง อาเดรียง ราบิโอต์ สอดมาโขกทางเสาไกลตุงตาข่าย

30 นาทีผ่านฝรั่งเศสได้ใจเร่งเครื่อง อองตวน กรีซมันน์ เก็บบอลทางซ้ายตัดเข้าในหยอดด้วยขวาโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าหัว โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ถอยมาโขกข้ามคาน

2 นาทีต่อมา “ตราไก่” รัวแซงเป็น 2-1 จากความผิดพลาดของ เนธาเนียล แอ็ตกินสัน เสียบอลทางฝั่งซ้ายสุดท้ายเป็น อาเดรียง ราบิโอต์ สอดขึ้นมาพาเข้าเขตโทษเลือกถวายพานเข้าในให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เก็บงานไม่พลาด

ก่อนหมดครึ่งแรก 10 นาที “แชมป์เก่า” โหมชุดใหญ่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ถอยมาเชื่อมบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวาดึงตอกส้นตั้งให้ อองตวน กรีซมันน์ หักข้อด้วยซ้ายบดหลุดเสาแรก

นาทีที่ 45 ฝรั่งเศสเฉียดทิ้งห่าง อองตวน กรีซมันน์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษฝั่งขวาดีดไซค์ก้อยมาหน้ากรอบ 6 หลาไหลโถมมาชาร์จแบบไม่มีตัวประกบเหินข้ามคานอัศจรรย์

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+1 ออสเตรเลีย เฉียดตามตีเสมอ เคร็ก กู๊ดวิน พาบอลหนีขึ้นมาทางซ้ายได้ช่องยกเข้าเขตโทษมาตกใส่หัว แจ็คสัน เออร์ไวน์ โขกย้อนทาง อูโก้ โยริส ชนเสาเด้งออกมา

หมดครึ่งเวลาแรกฝรั่งเศส 2 ออสเตรเลีย 1

นาทีที่ 50 “ตราไก่” ออกหมัดก่อน เตโอ เอร์นานเดซ เติมเกมรุกทางซ้ายครอสบอลเข้าเขตโทษข้ามมาเสาสองให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทิ้งตัวจักรยานอากาศหน้ากรอบ 6 หลากระดอนพื้นหลุดออกไปหน่อยเดียว

60 นาทีผ่านจากจังหวะประสานงานสุดสวย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ไขว้เร็วชิ่งคืนให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โชว์ความเร็วสอดเข้าเขตโทษแทบได้ล่อเป้าติดแนวรับ ออสเตรเลีย ทิ่มแทงออกหลังช่วยไว้ได้ทัน

7 นาทีต่อมา จากจังหวะทำเกมทางซ้ายบอลไหลเข้าในถึง อองตวน กรีซมันน์ ตั้งเท้าชาร์จตามน้ำพุ่งหาปากประตูติดตัวคุมเส้นนอนขวางหวดทิ้งออกมา

จากจังหวะต่อเนื่อง ฝรั่งเศส ขยับทิ้งห่าง 3-1 จนได้ อุสมาน เดมเบเล่ ตามมาเก็บตกทางขวาดึงจังหวะได้ช่องหยอดเข้าเขตโทษคืนให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เสยเปลี่ยนทางเช็ดเสาสองเด้งซุกก้นตาข่าย

ต่อมานาทีที่ 72 “ตราไก่” รัวยำเป็น 4-1 คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ขยับมาเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายใช้ความเร็วกระชากขึ้นมาหยอดโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าหัว โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ขวิดประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้

ช่วงท้ายเกม นายด่าน ออสเตรเลีย เจองานหนักต่อเนื่อง อิบราฮิมา โกนาเต้ โขกล่อเป้าเต็มหัวกระดอนพื้นติดปลายมือ แม็ทธิว ไรอัน ลอยมาตะปปทิ้งอย่างไม่น่าเชื่อถือ

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ฝรั่งเศส 4 ออสเตรเลีย 1

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ฝรั่งเศส (4-1-2-3) :
อูโก้ โยริส – แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ (ฌูลส์ กุนเด้ น.89), ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, อิบราฮิมา โกนาเต้, ลูกัส แอร์กน็องเดซ (เตโอ เอร์นานเดซ น.13) – โอเรเลียง ชูอาเมนี่ (ยุสซุฟ โฟฟาน่า น.77) – อาเดรียง ราบิโอต์, อองตวน กรีซมันน์ – อุสมาน เดมเบเล่ (คิงสเล่ย์ โกมัน น.77), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาร์คุส ตูราม น.89), คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ออสเตรเลีย (4-1-2-3)
แม็ทธิว ไรอัน – เนธาเนียล แอ็ตกินสัน (มิลอส เดเกเน็ค น.85), แฮร์รี ซูตทาร์, ไคล์ โรวล์ส, อาซิซ เบฮิช – อารอน มอย – ไรลี่ย์ แม็คกรี (เอเวอร์ มาบิล น.73), แจ็คสัน เออร์เหล้าองุ่น (คีอานู แบกคุส น.85) – แม็ทธิว เล็คกี้, มิทเชลล์ ดุ๊ค (เจสัน คัมมิงส์ น.56), เคร็ก กู๊ดวิน (กาแรง คูล น.73)

หนุ่มออสซี่-สาวนิวซีแลนด์ ฝ่าร้อนคว้าแชมป์ “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา” ด้าน “บัวขาว” แก้มือสำเร็จ จบการแข่งขัน

การแข่งขัน “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬาครั้งที่ 28” ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 พ.ย.65มีนักไตรกีฬากว่า1,200คนจาก 48ประเทศเข้าร่วมแข่งขันประเภทชาย ชาร์ลี ควิน จากออสเตรเลีย ซึ่งลงแข่งขันรายการนี้ครั้งแรก เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 เวลา 02.27.19 ชม. ชนะรุ่นพี่ อันดับ 2 รูดี ไวลด์ จากสวิสเซอร์แลนด์ 02.33.20 ชม. และ อันดับ 3 มาสซิโม ซิกานา จากอิตาลี 02.38.35 ชม.

ชาร์ลี ควิน เผยว่า เแม้จะมาจากประเทศออสเตรเลียที่มีอากาศร้อน แต่ก็ไม่เคยเจอร้อนเท่าประเทศไทย ก็เลยต้องจัดการกับการดื่มน้ำและหายใจให้ดี ตนเคยมาภูเก็ตครั้งแรกเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นได้ลงแข่งฟันรันในงานนี้ และประทับใจว่านักไตรกีฬาที่ได้แชมป์มีดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก ก็เลยเป็นแรงบันดาลใจให้ต้องการจะเป็นแชมป์บ้าง และวันนี้ได้ทำสำเร็จ

ส่วน ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา ประเภทหญิง

อมีเลีย วัตคินสัน จากนิวซีแลนด์คว้าแชมป์เป็นครั้งที่3 ต่อจากปี 2559และ 2560ด้วยเวลา 02.39.50 ชม.อันดับ2 ดิมิที-ลี ดุคจากออสเตรเลีย 02.47.28 ชม. อันดับ 3 เฟลิซิตี้ ชีดี้ไรอัน จากออสเตรเลีย 02.51.07 ชม. โดย อมีเลีย กล่าวว่า แม้ได้แชมป์ปีที่ 3 แต่ว่า แต่ละปีไม่เคยง่ายแม้แต่ครั้งเดียว

ครั้งนี้สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือสภาพอากาศร้อน ด้าน จเร เจียรนัย ดีกรีนักไตรกีฬาหนุ่มทีมชาติไทย คว้าแชมป์คนไทยเป็นสมัยที่ 11 ด้วยเวลา 02.46.46 ชม. ส่วนแชมป์คนไทยฝ่ายหญิง คือ วรรษา จาติกวณิช สาวแกร่งดีกรีผู้บริหารสตาร์ทอัพชั้นนำของไทย เข้าอันดับ 1 เวลา 03.16.57 ชม.

นักมวยคนดังอย่าง สมบัติ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ สังกัดสิงห์ ออลสตาร์ ไตร ที่ทีล่าสุด แข่งไม่จบ ด้วยเหตุว่าปั่นกระทั่งจักรยานพัง ทีนี้แก้ตัวสำเร็จ เข้าเส้นชัย เวลา 04.50.12 ชม. ด้านนักแสดงชายคนดัง “ท็อป” เทวินทร์ สุรเชิดเกียรติ ทีมเดียวกับบัวขาว ลงไตรกีฬาครั้งแรก ทำเวลาได้ 04.20.03 ชม.

ไทเกอร์คิงส์ดอม ภูเก็ต สนับสนุน “บัวขาว บัญชา” ลงแข่งลากูน่า ไตรกีฬา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (19 พ.ย.) สวนเสือไทเกอร์คิงส์ดอม ภูเก็ต พล.ต.หญิงกชกร ไชยบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คุ้มเสือตระการ จำกัดพร้อมทั้งนายสมบัติ บัญชาเมฆหรือ “บัวขาว”นักมวยชื่อดังระดับนานาชาติด้วยกันแถลงข่าวในงาน“พี่เสือสปอร์ต” โดยมี แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนเข้าร่วม

พล.ต.หญิงกชกร ไชยบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คุ้มเสือตระการ จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนบัวขาว บัญชาเมฆ และทีมในการแข่งขันลากูน่าภูเก็ต ไตรกีฬา ครั้งที่ 28 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยว รวมทั้งเตรียมความพร้อมของไทเกอร์คิงส์ดอม เพื่อเตรียมต้อนรับเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลมาหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

“เนื่องด้วยไทเกอร์คิงดอม ภูเก็ต เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านการท่องเที่ยวในหลากลายรูปแบบ ทั้งยังยินดีเป็นส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วนด้วยดีเสมอมา แต่ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การจัดกิจกรรมทั้งหลายถูกระงับและเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด นำมาซึ่งการทำให้บรรยากาศที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวนั้นซบเซาลงอย่างมองเห็นได้ชัด ทางภาครัฐตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ก็เลยร่วมมือกับภาคเอกชนในการกลับมาฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกัน ทางไทเกอร์คิงดอม ภูเก็ต ก็เลยไม่ลังเลและพร้อมให้ความร่วมมือในอย่างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและการกีฬาของจังหวัดภูเก็ตที่เคยซบเซาให้กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวาอีกรอบ” พล.ต.หญิงกชกร กล่าว

นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ “บัวขาว” กล่าวว่า การลงแข่งขันไตรกีฬาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ตนได้ร่วมลงแข่งขัน ซึ่งครั้งแรกนั้นไม่สามารถที่จะเข้าเส้นชัยได้ เนื่องด้วยจักรยานที่ใช้เกิดเสียหาย แต่ครั้งนี้ได้เตรียมตัวมาพร้อม และมีการฝึกฝนมาระดับหนึ่ง มั่นใจว่าจะเข้าเส้นชัยได้อย่างแน่นอน

โบกไม้โบกมือลาไปอีกรายภายหลัง แกรี่ เคฮิลล์ อดีตเซ็นเตอร์แบ็ค เชลซี ประกาศแขวนสตั๊ดเรียบร้อยแล้วในวัย 36 ปี

อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษที่ยังผ่านการเล่นกับ แอสตัน วิลล่า, โบลตัน, คริสตัล พาเลซ และก็ บอร์นมัธ คอนเฟิร์มการรีไทร์ของเขาผ่านทางโซเชียล มีเดีย

เคฮิลล์ กวาดความสำเร็จมากที่สุด

ในตอนค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเขาคว้าแชมป์เมเจอร์มาทุกรายการรวมทั้งแชมเปี้ยนส์ลีกและก็พรีเมียร์ลีก

“ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มอบความสุขและก็ความสำเร็จมากมายให้กับผม แล้วจากที่ผมตัดสินใจแขวนสตั๊ด, ผมบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าผมทุ่มเททุกสิ่งที่มีให้กับฟุตบอล” เคฮิลล์โพสต์

“ผมไขว่คว้าในสิ่งที่ผมเคยใฝ่ฝัน, สร้างความทรงจำอันไม่น่าเชื่อขึ้นมา ตั้งแต่ความสำเร็จอันเด่นทั้งยังการคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกกับพรีเมียร์ลีก, ไปจนถึงเกียรติที่ได้เป็นกัปตันให้ประเทศของผมและก็ เชลซี ในชุดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพนั้นจะเป็นสิ่งที่ติดตัวผมตอลดไป”

“ผมสร้างความสัมพันธ์แสนวิเศษกับผู้คนทั่ววงการฟุตบอล, ตั้งแต่เพื่อนร่วมทีม, ผู้จัดการทีม, ไปจนถึงฮีโร่ที่อยู่เบื้องหลัง ผมเพียงแค่ต้องการขอกล่าวขอบคุณเป็นอย่างมาก”

“การตัดสินใจเลิกเล่นไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย ผมใช้เวลา 20 ปีลงฝึกซ้อมอยู่ทุกวัน, ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดสำหรับการแข่งขัน เพื่อช่วยให้ทีมที่ผมเล่นให้ได้ประสบความสำเร็จ”

“ผมมีเวลาในการพิจารณาทางเลือกของผม หลังจากตรึกตรองครุ่นคิดและก็ทวนอย่างหนักผมก็คิดว่านี่เป็นเวลาสำหรับการมุ่งหน้าสู่ก้าวถัดไปในเส้นทางอาชีพของผม”

“คำขอบคุณพิเศษต้องมอบให้กับครอบครัวอันอเมซซิ่งของผม ที่เคยเป็นอันมากใจและก็อยู่เคียงข้างมาตลอดทั้งเส้นทางอาชีพ ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งที่ผมตั้งตารอ”

“นอกจากนั้นแล้ว, ฟุตบอลจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนผมตลอดไปและก็เป็นสิ่งที่รัก ด้วยเหตุนี้นี่เป็นเพียงแต่การปิดฉากชีวิตบทนี้ สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการมองถึงอนาคตไม่ใช่อดีต เมื่อบทใหม่ในชีวิตของผมเริ่มต้น”

เคฮิลล์ เริ่มต้นการค้าแข้งกับ แอสตัน วิลล่า

แต่ก็ได้เล่นไปเพียงแค่ 31 เกมตลอดช่วงเวลา 4 ปี แถมผ่านการโดนปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ เบิร์นลี่ย์ และก็ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

เขากลายเป็นนักเตะที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกอย่างบ่อยเมื่อย้ายซบ โบลตัน ในปี 2008 ก่อนจะลงเล่นไปทั้งหมด 147 เกมและก็ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษทีแรกในปี 2010

ฟอร์มอันน่าประทับใจทำให้ เคฮิลล์ได้ย้ายซบ เชลซี ในเดือนมกราคม 2012 ด้วยค่าตัวประมาณ 7 ล้านปอนด์ ก่อนจะผ่านการลงสนามไปอีก 290 เกมและก็คว้าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ตั้งแต่ซีซั่นแรก ตามด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2014-15 และก็ 2016-17

เขาโบกไม้โบกมือลาจาก เชลซี ในปี 2019 ก่อนจะใช้เวลากับ พาเลซ ต่ออีก 2 ฤดูกาลและก็ลงเล่นในซีซั่นที่แล้วกับ บอร์นมัธ กระทั่งพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เคฮิลล์ ไม่ได้ลงสนามในช่วง 4 เดือนสุดท้ายกับ บอร์นมัธ โดยเกมที่เขาโดนใบแดงตอนเจอกับ บาร์นสลี่ย์ เมื่อวันที่ 29 มกราคมเป็นการลงเล่นเกมสุดท้ายของเขา

เมื่อวันอังคาร อารอน เลนน่อน อดีตปีกของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ก็พึ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปเหมือนกัน

เมื่อจบฤดูกาลด้วยการสิ้นสุดอาชีพค้าแข้งของแกรี่ เคฮิลล์ กับเชลซี แนวรับและก็กัปตันทีมคนล่าสุดของพวกเรา หลังจากที่หมดสัญญา เขาก็ได้ถ่ายทอดความรู้สึกให้กับแฟนบอลเดอะบลูส์ได้รับรู้ผ่านหนังสือแมตซ์เดย์ โปรแกรม เมื่อเดือนที่ผ่านมา

เมื่อแกรี่ เคฮิลล์ได้เริ่มต้นเซ็นสัญญากับเชลซีจากโบลตัน วันเดอร์เรอร์ส เมื่อเจ็ดปีครึ่งที่ผ่านมา เขาก็มีบทบาทสำคัญในช่วงที่เขาอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

เคฮิลล์ย้ายมาอยู่กับทีมในฐานะแนวรับที่เยี่ยม เขาเป็นทั้งยังตำนานและก็กัปตันทีมของสโมสร หลังจากที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่พาทีมประสบความสำเร็จทั้งยังในการแข่งขันภายในประเทศหรือในเวทียุโรป รวมทั้งการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสองสมัย และก็แชมเปี้ยนส์ ลีก

นักเตะชาวยอร์คเชียร์จะถูกจดจำในฐานะคนของคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง และก็เขายังเป็นคนมีส่วนช่วยในการพาทีมความแชมป์ลีกทั้งสองครั้ง จากครั้งแรกที่ได้ลงเล่นเคียงข้างจอห์น เทอร์รี่ในปี 201/15 และก็จากนั้นก็ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คทรี หลังจากเป็นตัวเลือกในปี 2016/17 ซึ่งแต่ละครั้งเคฮิลล์สามารถทำผลงานได้อย่างเยี่ยมกระทั่งกระทั่งทีมเยี่ยมประจำฤดูกาลของพีเอฟเอ นับเป็นเกียรติยศ แห่งความสำเร็จของเขาในช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสรแห่งนี้

แน่นอนว่า ไม่มีแฟนบอลเชลซีคนไหน ที่จะลืมว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งช่วงเวลาที่เยี่ยมที่สุดของสโมสรเมื่อพวกเราสามารถคว้าแชมป์ยุโรปในปี 2012 หลังจากที่มีอาการบาดเจ็บในนัดที่สองของรอบรองชนะเลิศที่เจอกับบาร์เซโลนา มันแทบทำให้เขาไม่ได้มีโอกาสลงเล่นในเกมที่สุดยอดที่สุด แต่จากที่เทอร์รี่และก็บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ติดโทษแบน หน้าที่ในการคุมแนวรับก็ตกเป็นของเคฮิลล์ และก็ดาวิด ลุยซ์ ที่พวกเขาไม่สามารถลงซ้อมได้นับเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนที่ต้องลงเล่นครบทั้งยัง 120 นาที

เคฮิลล์ลงเล่นเต็มเกม โดยยืนจัดการกับความบีบคั้น

กับเกมบุกของบาเยิร์น มิวนิคที่ถาโถมเข้าไป กระทั่งพาเราสามารถเอาชนะการดวลจุดโทษที่เยอรมันได้สำเร็จในสนามของพวกเขาเอง

ความสำเร็จครั้งนั้นผ่านไปอย่างเร็ว เคฮิลล์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมในปี 2017 หลังจากที่จอห์น เทอร์รี่ย้ายออกจากทีมไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจนั้นเป็นผลดีต่อแฟนคลับและก็ทีม โดยเขาสามารถตอบแทนความไว้วางใจ และก็นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับตัวเขา

หาเจาะลึกลงไปในเนื้อหาในช่วงเวลาเจ็ดปีครึ่งที่ผ่านมา เขาจำเป็นต้องอดทนในช่วงแรกของเขากับสโมสร จากการที่เขาไม่ถูกส่งลงสนามมาในช่วงสองสามเกมแรก กระทั่งการกระทั่งเขาถูกส่งลงมาในสนามในเกมใหญ่ที่เจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และก็ยืนเป็นคู่แนวรับกับดาวิด ลุยซ์ ซึ่งผลก็คือ ความผิดหวังจากที่พวกเราขึ้นนำไปก่อน 3-0 แต่ลงท้ายด้วยการเสมอ 3-3 แต่ในฐานะฟอร์มการเล่นส่วนตัวนับว่าเคฮิลล์จัดว่าทำผลงานได้ดีในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

หลังจากที่อันเดร วิลลาส-โบอาส ออกจากทีมไป เคฮิลล์ก็ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในสองเกมแรกภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต้ ดิ มัตติโอ ก่อนที่จะทำประตูแรกจาก 25 ประตูของเขากับเชลซี เมื่อเขาโหม่งประตูชัยในเกมที่เจอกับเลสเตอร์ ในรอบควอเตอร์-ไฟนอล และก็ประตูแรกในพรีเมียร์ลีกในอีกสามวันถัดมาที่เจอกับแมน ซิตี้

เคฮิลล์ กลายเป็นที่รักของแฟนบอล

เมื่อเขาสกัดบอลจากเส้นประตู ซึ่งอาจเป็นประตูชัยของอเดบายอร์ให้กับสเปอร์ในเดอะบริดจ์ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่เยี่ยมในฤดูกาลแรกของเขากับสโมสรมันก็เลยไม่มีข้อสงสัยเลยที่เขาจะได้ลงเล่นในนัดแรกรอบรองชนะเลิศที่เจอกับบาร์เซโลนา

เขายืนเป็นคู่หูของจอห์น เทอร์รี่ และก็ทำผลงานได้อย่างเยี่ยมในการจัดการกับสถานการณ์ความบีบคั้นที่ทีมจากประเทศสเปนบุกใส่เข้ามา ทั้งยังการบล็อคลูกยิง และก็เข้าปะทะที่เกิดจากความตั้งใจอย่างแรงกล้า กระทั่งทำให้พวกเราได้เห็นประตูของดิดิเยร์ ดร็อกบาในช่วงครึ่งแรกที่เป็นประตูตัดสินในค่ำคืนนั้น

อาการบาดเจ็บของเขาในนัดที่สองที่แคมป์ นูว ทำให้เคฮิลล์ต้องพลาดการลงสนามไปนับเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งรวมทั้งเกมรอบชิงแชมป์เอฟเอ คัพ ที่เจอกับลิเวอร์พูล แต่นับเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่เขาผ่านความฟิตและก็สามารถลงเล่นได้ในรอบชิงแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกที่เจอกับบาเยิร์น มิวนิค ในอีกสองสัปดาห์ถัดมา

ด้วยทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บและก็ติดโทษแบน การลงสนามของเคฮิลล์ และก็ลุยซ์ ที่ผ่านความฟิตลงสนามนับเป็นอันมากใจที่ดีในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์สโมสร ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ก็ตาม และก็แน่นอนว่าต้องยกเครดิตให้พวกเขาที่สามารถยืนระยะในเกมที่เยอรมันถึง 120 นาที

เมื่อเทอร์รี่ยุติการค้าแข้งในช่วงเวลา 22 ปี กับเชลซี ในช่วงซัมเมอร์นั้น เคฮิลล์ก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นกัปตันทีมในช่วงพรีซีซั่นที่เอเชีย ซึ่งตัวเขาเองก็กล่าวว่า เขารู้สึกดีใจ และก็ภูมิใจ จากการได้รับเกียรติในครั้งนี้

รายการเอฟเอ คัพ นับเป็นรายการแรกที่เขาทำได้ในปี 2012 และก็ขณะที่เขาไม่ได้มีส่วนในรอบชิงแชมป์ครั้งนั้น เขาก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมสุดท้ายที่เจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และก็ทำผลงานได้อย่างเยี่ยมร่วมกับอัซปิลิเกวต้า และก็รูดิเกอร์ ทำให้พวกเราเก็บชัยชนะเหนือทีมปีศาจแดง คว้าแชมป์เมเจอร์รายการที่ 7 ในฐานะนักเตะเชลซี

ในการที่อังกฤษเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เคฮิลล์กลับมาร่วมพรีซีซั่นหลังนักเตะคนอื่นๆและก็ดาวิด ลุยซ์ได้กลายเป็นหัวใจในแนวรับในตำแหน่งแบ็คโฟวร์

กัปตันทีมของพวกเราได้มีส่วนอย่างยิ่งในการลงเล่นในยูโรป้า ลีก และก็ลีก คัพ ฤดูกาลนี้ แต่เรื่องราวของเขากับเชลซีได้ถูกบันทึกไว้หมดแล้ว เขาสามารถบอกได้ว่ามันเป็นการลาจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยเกียรติยศเมื่อเดือนที่ผ่านมาจากการเอาชนะวัตฟอร์ด มันเป็นการลงสนามนัดที่ 291 ให้กับเชลซี เป็นการปิดฉาก 25 ประตูของเขา โดยเขาลงสนาม 4 นัดในยูโรป้า ลีก ซึ่งการคว้าแชมป์รายการล่าสุดนับเป็นรายการที่ 8 ของเขา

การคว้าแชมป์ที่มิวนิค และก็เวมบลีย์ เคฮิลล์นับได้ว่าประสบความสำเร็จทุกสิ่งกับเชลซีแล้ว

ในฐานะนักเตะที่เยี่ยม กัปตันที่เยี่ยม และก็คนๆหนึ่งที่เยี่ยม เคฮิลล์จะเป็นที่คิดถึงตลอดไปของสโมสร

เขาย้ายมาอยู่กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ด้วยความฝันที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขายอมรับว่า เขาไม่เคยคาดหวังว่ามันจะได้อย่างเร็ว และก็มากมายขนาดนี้ เขาจะออกจากเชลซีไปในฐานะนักเตะระดับตำนาน

ขอบคุณแกรี่ เคฮิลล์ และก็ขออวยพรให้เจอแต่สิ่งที่ดีที่สุดในอนาคต

แจ็ค วิลเชียร์ เชื่อว่า มิเกล อาร์เตต้า ไม่อยากได้ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เข้าร่วมทีม อาร์เซนอล อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า เพียร์ซ มอร์แกน พิธีกรชื่อดังบอกว่ากองหน้าชาวโปรตุกีสจะเป็นดีลที่เยี่ยมของ “ปืนใหญ่” ก็ตาม

ดูดุจว่า โรนัลโด้ จะไม่ได้เล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกต่อไป จากบทสัมภาษณ์ที่ทิ้งบอมบ์ใส่ต้นสังกัด

มอร์แกน ซึ่งเป็นแฟนบอลพันธ์ุแท้ของอาร์เซนอล อยากมองเห็น โรนัลโด้ ย้ายไปลอนดอนเหนือ ถึงแม้กระทั่งใส่เสื้อเบอร์ 7

อย่างไรก็ตาม วิลเชียร์ ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นโค้ชทีม ยู-18 ไม่คิดว่าสิ่งนี้ จะเกิดขึ้นได้ โดยเชื่อว่า อาร์เตต้า ไม่มีทาง เซ็นสัญญา โรนัลโด้ เข้าร่วมทีมแน่นอน

วิลเชียร์ บอกกับ talkSPORT ว่า

“ผมยังคิดว่า เขาจะนำบางอย่างให้นักเตะ อายุน้อยดูเป็นตัวอย่าง, ดูว่าเขาดำเนินชีวิต แล้วก็ทำสิ่งต่าง ๆ อย่างไร ผมยังคิดว่าการมีเขาก็มีประโยชน์นะ”

ดาร์เรน เบนท์ อดีตกองหน้าทีมชาติซึ่ง เป็นผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า “คุณคงไม่อยากได้เขาไปเล่นให้ อาร์เซนอลหรอก, ไม่มีทาง ด้วยสิ่งที่ อาร์เตต้า กำลังสร้างอยู่ตอนนี้, คุณคงไม่อยากได้”

วิลเชียร์กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่า มิเกล อยากได้เขา ไม่ (ผมก็ไม่อยากได้เช่นเดียวกัน)”

เบนท์ เสริมอีกว่า “คุณจะเซ็นเขาไปที่อาร์เซนอลไม่ได้, คุณเพิ่งกำจัด โอบาเมยอง เองนะ”

วิลเชียร์อธิบายเพิ่มว่า “ชัดเจนว่าสิ่งที่เขาทำไปมันแย่, แต่เขาไม่เคยมีประวัติ ทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ทั้งยังที่เคยอยู่กับมาดริด มาหลายปี”

แล้วก็ตอนนี้ หนาวจนถึงตัวสั่น! อาร์เตต้า ปลาบปลื้ม อาร์เซน่อล รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกก่อนพักยาว

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมฟุตบอล อาร์เซน่อล สุดแฮปปี้ “ไอ้ปืนใหญ่” รั้งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ก่อนพักยาว หลังบุกโค่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 พร้อมเจาะจง เป็นเกมที่เล่นด้วยความยากลำบาก แล้วก็ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เปิดเผยว่าตน

แล้วก็ทุกคนในทีมต่างพอใจมากๆที่สามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ก่อนพักยาว เพื่อหลีกทางให้กับศึกฟุตบอลโลก 2022 หลังบุกไปเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

เกมนี้ อาร์เซน่อล ได้ทั้งสองประตูจาก มาร์ติน โอเดอการ์ด นาทีที่ 55 แล้วก็ 75 ซึ่งความมีชัยนัดนี้ทำให้ “ไอ้ปืนใหญ่” ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูง มีคะแนนเพิ่มเป็น 37 แต้ม จากการลงแข่ง 14 นัด หนี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับสอง ที่เตะคู่หัวค่ำ แต่พลาดท่าแพ้ เบรนท์ฟอร์ด คาบ้าน 1-2 ห่างเป็น 5 แต้ม

ยิ่งไปกว่านี้ อาร์เตต้า ยอมรับว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน สร้างความยากลำบากให้กับทีมตนไม่น้อย “วันนี้มันเป็นเรื่องของการที่ต้องเล่นด้วยความอดทนมากๆพวกเขาสร้างความยากลำบากให้กับพวกเรา พวกเราไม่มีพื้นที่ได้จู่โจมเลย แล้วก็พวกเขาก็รอคอยโอกาสจากความผิดพลาดของพวกเรา พวกเราต้องเล่นด้วยความอดทน แล้วก็สุดท้ายมันก็ได้ผล”

“มันเป็นอะไร ที่ยอดเยี่ยม กับตำแหน่งที่เราเป็นอยู่ เรากำลัง มีความสุขกับช่วงเวลานี้ และเรามีช่วงพักใหญ่ ที่กำลังมาถึง เราจะมีการมาดูในสิ่ง ที่เราทำมาก่อนหน้านี้ และจะเตรียมทีมให้ดี ที่สุดสำหรับที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจบฟุตบอลโลก แต่เป้าหมายของเรา คือการลงเล่นที่ดีกว่าเดิม ในทุกเกม หาสิ่งที่ดีกว่าเดิม ในการทำอะไรในสิ่งที่เราต้องการ ในการทำงานในสนาม ผมสามารถบอกได้ว่า มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก ในการทำงานร่วมกับผู้เล่น และทีมงานของทีม”

“หลังจากนี้ ผมต้องการเวลา สักสัปดาห์ในการมานั่งคิดถึงเรื่องนี้ แน่นอนไม่มีใครคาดหวัง ว่าเราจะอยู่ในตำแหน่งที่เราเป็นอยู่ และด้วยจำนวนเกมที่เราลงเล่น จำนวนชัยชนะที่เราได้มา แต่ผมใส่ใจในการมุ่งสมาธิในแนทางการเล่นกับทีม และแนวทางการอยู่ร่วมกันกับทีม บรรยากาศภายในทีม ภายในห้องแต่งตัว และในสนามซ้อม รวมถึงการมีส่วนร่วม ของแฟนบอล ของเราในสนามเหย้าของเรา แน่นอนรวมถึงความสัมพันธ์ กับคนภายในสโมสร และมันเป็นสิ่งที่มีพลังอย่างมาก โดยงานของผมคือการมีสมาธิในการเล่นให้ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกเกม”

มหกรรมกีฬาระดับนานาชาติอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 (FIFA World Cup 2022) รอบสุดท้ายระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม 2022 กำลังจะเปิดฉากขึ้นเร็ว ๆ นี้

ชื่อของประเทศเจ้าของงานจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่าง ‘กาตาร์’ ถูกกล่าวถึงมาตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นข่าวฉาวทั้งยังเรื่องของการยื่นข้อเสนอจำนวนรวมกว่า 880 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(FIFA) เพื่อสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022

หรือแม้แต่ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่หลังการจับสลากฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่มผ่านมาได้ไม่กี่วัน องค์กรสิทธิมนุษยชน (Amnesty) ก็ออกมาแฉว่า มีแรงงานข้ามชาติทำงานโดยไม่มีวันหยุดติดต่อกันยาวนานหลายเดือน เนื่องจากว่านายจ้างไม่ให้วันหยุดประจำสัปดาห์ตามที่กฎหมายกาตาร์ระบุ

และก็เมื่อวานนี้ (9 พฤศจิกายน) เซปป์ แบลตเตอร์ (Sepp Blatter) อดีตประธานของสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ออกมาเปิดใจผ่านสื่อในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงสมัยที่เขาครอบครองตำแหน่งแม่งานของฟีฟ่า และก็มอบให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ว่า การยกให้ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก 2022 เป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดอย่างหนึ่งของชีวิต ด้วยเหตุว่า กาตาร์เป็นประเทศที่เล็กเกินกว่าที่จะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ไหน ๆ

ประเทศที่มีประชากรอยู่ที่ประมาณ 2.9 ล้านคน แต่มั่งมีติดอันดับต้น ๆ ของโลก ได้ประโยชน์แบบคุ้มได้คุ้มเสียจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกมากแค่ไหน ย้อนทำความเข้าใจและก็ทวนไปพร้อม ๆ กัน

กาตาร์เป็นประเทศเล็ก ๆ ในตะวันออกกลางที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงเป็นลำดับต้นของโลก และก็สูงที่สุดในกลุ่มประเทศ GCC (Gulf Cooperation Council) จากอดีตที่โดยมากจะมีอาชีพทำประมง แต่จากการศึกษาและทำการค้นพบน้ำมันและก็แหล่งก๊าซธรรมชาติในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ทำให้ภาพลักษณ์ของกาตาร์เปลี่ยนไป

การที่กาตาร์มีทรัพยากรที่สำคัญคือ น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ ทรัพยากรประมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งก๊าซธรรมชาติใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากรัสเซียและก็ประเทศอิหร่าน ส่งผลให้เดี๋ยวนี้กาตาร์เองมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นหลายด้านทั้งยังเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และก็การเมืองระหว่างประเทศ

จริงที่ว่าการเป็นเจ้าภาพจัดงาน ฟุตบอลโลก จะเป็นเครื่องมือสำคัญทาง เศรษฐกิจ

ที่จะทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาในประเทศมหาศาลจากทั้งยังการท่องเที่ยว การค้า และก็อานิสงส์ในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าลงทุนในประเทศในอนาคต แต่ก็ต้องแลกกับการลงทุนการพัฒนาโครงสร้างฐานรากต่าง ๆ และก็สร้างสนามกีฬารองรับการแข่งขันให้ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ ข้อมูลจากดีลอยต์ (Deloitte) ระบุว่า กาตาร์ทุ่มงบลงทุนกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการสร้างโครงสร้างฐานราก และก็โครงการพัฒนาอื่นๆนับตั้งแต่ชนะการประมูลเพื่อเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 โดยใช้เงินราวๆ6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐสร้างสนามกีฬา 8 แห่ง ตามเมืองต่างๆ5 เมืองด้วยกัน ได้แก่ โดฮา, ลูซาอิล, อัล กอร์, อัล รายยาน และก็อัล วาคราห์ รวมทั้งลงทุนอีกหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างรถไฟใต้ดิน สนามบินแห่งใหม่ สร้างถนน และก็โครงสร้างฐานรากอื่น ๆ

งบลงทุนที่สูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้นับเป็นตัวเลขที่สูงกว่างบลงทุนการเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่าน ๆ มาเป็นอย่างมาก มากเกือบจะถึง 20 เท่าตัว

ฟุตบอลโลก 2014ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ใช้งบลงทุนราวๆ11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฟุตบอลโลก 2018ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ ใช้งบลงทุนราวๆ14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อไม่นานมานี้ ฟาตมา อัล นูไอมี (Fatma Al-Nuaimi) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 เปิดเปิดเผยว่า การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในคราวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Qatar National Vision 2030 ที่รัฐบาลใช้โอกาสในการสร้างและก็พัฒนาสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยของกาตาร์ โดยงบที่ทะเยอทะยานถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้เป็นแผนงานที่เตรียมไว้ก่อนรับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก

แม้กาตาร์จะยืนยันว่าการทุ่มงบลงทุนในคราวนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาประเทศของกาตาร์ แต่หลากหลายคำถามที่ตามมาคือ การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกจะสามารถสร้างเม็ดเงิน สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเจ้าของงานได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากก็มีตัวอย่างมาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา อย่างกรณีบราซิลที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกเมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งมหกรรมฟุตบอลโลกสร้างรายได้ให้บราซิลได้ไม่ถึงครึ่งของเงินที่ลงทุนไป ขาดทุนถึง 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

World Economic Forum เคยให้มุมมองถึงประเด็นการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกกับความหมายทางเศรษฐกิจไว้เมื่อหลายปีก่อน สรุปรวม ๆ ได้ว่า การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกอาจได้ไม่คุ้มเสียเนื่องจากเม็ดเงินที่ลงทุนไปมีมากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะได้กลับมา เนื่องจากมีค่าเสียโอกาสในการลงทุนก่อสร้างและก็พัฒนาโครงสร้างฐานรากของประเทศ และก็แม้ว่าจะดึงดูดแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาท่องเที่ยวได้ แต่ก็อาจจะกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไป เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั่วไปอาจจะต้องหลีกหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเที่ยวในสถานที่นั้นๆในช่วงจัดการแข่งขัน รวมทั้งรายได้โดยมากที่เกิดขึ้นก็จะตกอยู่ที่ผู้จัดการแข่งขัน

ในข้อมูลระบุว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) สร้างรายได้เกือบจะ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 โดยมากกว่าครึ่งของรายได้มาจากการขายสิทธิ์การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายนี้

Capital Economics บริษัทวิจัยในลอนดอนระบุว่า จากยอดการจำหน่ายตั๋วนั้นประเมินได้ว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1.5 ล้านคน เดินทางไปกาตาร์เพื่อไปฟุตบอลโลก และก็ถ้าหากแต่ละคนมาพักจำนวน 10 วันและก็ใช้จ่ายวันละ 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจของกาตาร์ในปีนี้โตมากขึ้น 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วน Oxford Economics มองว่า ฟุตบอลโลกครั้งแรกของตะวันออกกลางที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ GCC ในวงกว้าง จากการฟื้นตัวของการเดินทางและก็การท่องเที่ยว โดยคาดว่าภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่น้ำมันของภูมิภาคนี้ (Region’s non-oil sector) ในปี 2022 และก็ 2023 จะขยายตัว 4.9% และก็ 3.4% เป็นลำดับ และก็จะทำให้เศรษฐกิจกาตาร์ในฝั่งของอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่น้ำมันเติบโต 7.6% นับเป็นอัตราที่เติบโตเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015

อีกราว ๆ1สัปดาห์ที่การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายจะเปิดฉากขึ้นที่กาตาร์ และก็มียาวๆไปราวๆ1 เดือนจะสร้างประโยชน์ และก็รายได้ทางเศรษฐกิจ ช่วยหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหารและก็สายการบินมากน้อยให้กับกาตาร์และก็ประเทศในภูมิภาคแค่ไหนต้องติดตามดู